• LINE it!
สุขภาพ

น้ำคังเกนยิ่งดื่มยิ่งประหยัด

น้ำคังเกนยิ่งดื่มยิ่งประหยัด

“ควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน” คือปริมาณน้ำที่ควรดื่มขั้นต่ำเพื่อรักษาสมดุลของร่างกายที่ต้องสูญเสียน้ำออกไปต่อวัน ถ้าอย่างนั้นลองมาคำนวนกันเล่นๆว่าเราต้องจ่ายเงินค่าน้ำดื่มเท่าไหรในระยะเวลาซัก 5 ปี

  • 2 ลิตรต่อวัน คูณด้วย 365 วัน เท่ากับ 730 ลิตรต่อปี คูณด้วย 5 ปี เท่ากับ 3,650 ลิตร
  • สมมุติถ้าครอบครัวของคุณมี 3 คน แล้วคูณด้วย 3,650 ลิตร เท่ากับ 10,950 ลิตร

10,950 ลิตร คือปริมาณน้ำดื่มที่ครอบครัวของคุณควรต้องดื่มในตลอดระยะเวลา 5 ปี ถ้าอย่างนั้นเราต้องจ่ายเงินเท่าไหรหละ

——————————————————————————–
ลองเปรียบเทียบกันตามราคาน้ำดื่มในท้องตลาดกัน

  • น้ำดื่มบรรจุขวด ราคาเริ่มต้นประมาณลิตรละ 12 บาท คูณด้วย 10,950 ลิตร เท่ากับ 131,400 บาทต่อ 5 ปี
  • น้ำแร่ธรรมชาติ ราคาเริ่มต้นประมาณลิตรละ 30 บาท คูณด้วย 10,950 ลิตร เท่ากับ 328,500 บาทต่อ 5 ปี
    นั้นคือค่าใช้จ่ายเพื่อน้ำดื่มสำหรับครอบครัวของคุณ

——————————————————————————–
สำหรับเครื่องทำน้ำดื่มคังเกน (Kangen Water ®) มีต้นทุนเริ่มต้นและค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลา 5 ปี ดังนี้

  • ราคาเครื่อง 130,600 บาท
  • ราคาค่าน้ำประปา 0.001 บาทต่อลิตร ( 1 บาทต่อ 1,000 ลิตร) คูณด้วย 10,950 ลิตรเท่ากับ 11 บาท
  • ค่าไฟฟ้า เดือนละ 12 บาท (กรณีเปิดเครื่องทำน้ำดื่มวันละ 1 ชั่วโมงทุกวัน) คูณด้วย 5 ปี เท่ากับ 720 บาท
  • ค่าไส้กรอง Activated Carbon Filter ราคา 3,700 บาท เปลี่ยนทุกๆ 6,000 ลิตร
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นตลอด 5 ปี เท่ากับ 135,031 บาท
  • 135,031 บาท หารด้วย 10,950 ลิตร เท่ากับ ลิตรละ 12.34 บาท

——————————————————————————–
ผลสรุปค่าใช้จ่ายตลอด 5 ปี

  • น้ำดื่มบรรจุขวด 131,400 บาท (ถูกกว่าเครื่องทำน้ำดื่มคังเกนเพียง 3,631 บาท)
  • น้ำแร่ธรรมชาติ 328,500 บาท (แพงกว่าเครื่องทำน้ำดื่มคังเกนถึง 193,469 บาท)
  • เครื่องทำน้ำดื่มคังเกน 135,031 บาท (เฉลี่ยแล้วลิตรละ 12.34 บาทเท่านั้น)

จากผลการคำนวนจะเห็นได้ว่าการมีเครื่องทำน้ำดื่มคังเกนภายในบ้านจะมีต้นทุนใกล้เคียงการซื้อน้ำดื่มบรรจุขวด และ ประหยัดกว่าการซื้อน้ำแร่ธรรมชาติได้เกือบ 2 แสนบาท

——————————————————————————–
ถ้าลองมาคำนวนเพิ่มอีก 5 ปี เป็น 10 ปี (ประมาณ 21,900 ลิตร) จะได้ผลลัพท์ดังนี้

  • น้ำดื่มบรรจุขวดจะมีค่าใช้จ่ายใน 10 ปี ประมาณ 262,800 บาท (แพงกว่าเครื่องทำน้ำดื่มคังเกนถึง 119,638 บาท)
  • น้ำแร่ธรรมชาติจะมีค่าใช้จ่ายใน 10 ปี ประมาณ 657,000 บาท (แพงกว่าเครื่องทำน้ำดื่มคังเกนถึง 513,838 บาท)
  • เครื่องทำน้ำคังเกนจะมีค่าใช้จ่ายใน 10 ปี ประมาณ 143,162 บาท (เฉลี่ยแล้วลิตรละ 6.53 บาทเท่านั้น)

จะเห็นว่าการมีเครื่องทำน้ำดื่มคังเกนในครัวเรือนจะช่วยคุณประหยัดเงินมากกว่า 500,000 บาท หากเทียบกับน้ำแร่ธรรมชาติ และเกือบ 120,000 บาท หากเทียบกับน้ำดื่มบรรจุขวด และจะประหยัดมากขึ้นอีกตามระยะเวลาเพราะต้นทุนค่าน้ำค่าไฟต่ำมาก ส่วนค่าเครื่องลงทุนครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น และด้วยอายุการใช้งานของเครื่องซึ่งยาวนานถึง 15-20 ปี (เพราะบริษัทฯผลิตเครื่องทำน้ำคังเกนมาแล้วกว่า 20 ปี) สามารถช่วยให้ท่านประหยัดเงินได้มากถึงกว่าล้านบาทเลยทีเดียว

——————————————————————————–
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือประโยชน์ที่ท่านจะได้รับจากน้ำดื่มแต่ละประเภท

  • น้ำดื่มบรรจุขวด (น้ำสะอาด, บางบริษัทอาจจะมีการเติมแร่ธาตุเพิ่มลงไป เช่น แคลเซียม, แมกนีเซียม)
  • น้ำแร่ธรรมชาติ (น้ำสะอาด, มีความเป็นด่างเล็กน้อยจากปริมาณแร่ธาตุจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติ)
  • เครื่องทำน้ำดื่มคังเกน
    • กรองน้ำสะอาดด้วยไส้กรอง Activated Carbon ความละเอียดสูง
    • ปรับลดการเกาะตัวของโมเลกุลน้ำให้เล็กลง ทำให้สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เร็วกว่าน้ำดื่มประเภทอื่น (Microcuster)
    • เพิ่มปริมาณประจุอิสระ Hydroxyl Ion (OH-) ทำให้มีคุณสมบัติที่สามารถต่อต้านกับอนุมูลอิสระได้ (Antioxidantion)
    • ปรับค่า pH ของน้ำได้หลายระดับเพื่อประโยชน์การใช้งานที่หลากหลาย ดังนี้
      • น้ำดื่ม ระดับ pH 9.5 (Alkaline Water) มากกว่าน้ำแร่ธรรมชาติ
      • น้ำล้างผักผลไม้ ระดับ pH 11.5 (Strong Alkaline Water) เทียบเท่าน้ำด่างทับทิม
      • น้ำดื่มเพื่อการทานยาและชงนมเด็ก ระดับ pH 7.0 (Neutral Water) ดีที่สุดเพื่อการออกฤทธิ์ของยา
      • น้ำประทินผิว ระดับ pH 6.0 (Beauty Water) ความเป็นกรดอ่อนๆใกล้เคียงกับระดับผิวหนังร่างกาย
      • น้ำฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ระดับ pH 2.5 (Strong Acid Water) สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เทียบเท่าแอลกอฮอล์ล้างแผล

——————————————————————————–
ลองพิจารณาดูว่าคุณต้องการจ่ายเงินเท่าไหรเพื่อน้ำดื่มสำหรับครอบครัวคุณ???

สุขภาพ

More in สุขภาพ

  • ผงสีขาวในน้ำด่าง​ คืออะไร

    กระบวนการ Electrolysis ภายในเครื่องจะทำการเหนี่ยวนำแร่ธาตุในน้ำรวมทั้งแคลเซียมให้มารวมกันอยู่ในฝั่งของน้ำด่างเพื่อให้เป็นน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งจะมีปริมาณแคลเซียมต่อลิตรสูงที่สุดเมื่อเทียบกับน้ำดื่มทุกประเภทรวมทั้งน้ำแร่ธรรมชาติด้วย

  • ดื่มน้ำวันละเท่าไหรดี

    "เพื่อสุขภาพควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว" คงเคยได้ยินกันมาเสมอ แต่ถ้าจะให้ถูกต้องตามคำแนะนำจาก องค์การอนามัยโลก แล้วนั้นจะต้องคำนวนจากมวลร่างกายของแต่ละคน

error: